กระดาษคราฟท์ หนึ่งในประเภทของกระดาษที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวแทนของความรักษ์โลกและความคลีน ความออร์แกนิค เพราะสัญลักษณ์ที่ชัดเจนและการเปลี่ยนผ่านของยุคเกี่ยวกับความรักษ์โลกมาบรรจบกัน
ในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มปรับตัวตาม ด้วยการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ และหนึ่งในนั้นก็คือ 'กล่องกระดาษคราฟท์' ที่กำลังมาแรงและถือเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการ Packaging เรามาส่องกันดีกว่าว่า เหตุใดกระดาษคราฟท์ถึงถูกยกให้เป็นตัวแทนของความรักษ์โลก คลีน และออร์แกนิค จนแบรนด์ดังระดับโลกต่างพากันหันมาใช้กันอย่างคึกคัก
ความนิยมของกล่องกระดาษคราฟท์ ความลงตัวของความสวยงามและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
กระดาษคราฟท์ เป็นกระดาษที่ผลิตจากเยื่อไม้เคมี มีความแข็งแรงทนทาน แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของแบรนด์ที่อยากสื่อสารถึงความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการใช้กล่องกระดาษคราฟท์โดยเฉพาะสำหรับแบรนด์ในกลุ่มสินค้าออร์แกนิค สินค้าเพื่อสุขภาพ หรือแบรนด์ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน
นอกจากจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว กล่องกระดาษคราฟท์ยังมีข้อดีในแง่ของความสวยงามอีกด้วย สีน้ำตาลอ่อนเป็นธรรมชาติของกระดาษคราฟท์ให้ความรู้สึกอบอุ่น เรียบง่าย แต่ดูมีสไตล์ในตัวเอง และยังสามารถตกแต่งด้วยการพิมพ์หรือเพ้นท์ลวดลายต่างๆ ได้อีกมากมาย ทำให้มีความยืดหยุ่นในการออกแบบ เหมาะกับสินค้าหลากหลายประเภท
เจาะลึกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ขับเคลื่อนกระแสนิยมในการใช้กระดาษคราฟท์
การเติบโตของเทรนด์กระดาษคราฟท์สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น คนรุ่นใหม่มักจะเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ
อีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่เข้ากันได้ดีกับกระดาษคราฟท์ ก็คือกระแส 'มินิมอล' ที่เน้นความเรียบง่าย ไม่เน้นสีสันหรือลวดลายมากจนเกินไป ซึ่งความมินิมอลนี้ก็สอดคล้องกับแนวคิดของความยั่งยืนเช่นกัน อีกทั้งหลายๆ ครั้งเราอาจจะนึกถึงความเป็นญี่ปุ่นแบบเบาๆ เพราะมีความเรียบง่ายแต่ดูมีอะไรสักอย่าง แต่ยังคงไว้ซึ่งประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามนั่นเอง
แบรนด์ดังระดับโลกที่หันมาใช้กล่องกระดาษคราฟท์ ต้นแบบของความสำเร็จ
หลายแบรนด์ระดับโลกได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเลือกใช้กล่องกระดาษคราฟท์เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยสร้างการจดจำในใจลูกค้า
ตัวอย่างเช่น Chanel ที่ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์เรียบหรู ก็เลือกใช้กล่องกระดาษคราฟท์สีน้ำตาลอ่อนเป็นบรรจุภัณฑ์หลักของสินค้าบาง collection ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Minimal เน้นความเรียนง่ายของแบรนด์ และยังแสดงให้เห็นถึงความพยายามแลดการพยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
หรือแบรนด์เครื่องสำอางอย่าง Lush ที่ใช้กล่องกระดาษคราฟท์เป็นบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์จำพวกสบู่ น้ำมันหอมระเหย ซึ่งเข้ากันได้ดีกับคอนเซ็ปต์ของสินค้าที่เน้นความเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้หากสังเกตตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ร้านขายเครื่องหอมหรือพวกสบู่ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นต้นแบบของการใช้กล่องกระดาษคราฟท์และความเป็นสีเอิร์ธโทนในการแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของความเป็นแบรนด์นั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
ความสำเร็จของแบรนด์ดังเหล่านี้ ได้กลายเป็นต้นแบบให้กับธุรกิจอีกมากมายที่กำลังมองหาแนวทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่น แต่ไม่ทิ้งความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ไปในคราวเดียวกัน
บทสรุป เทรนด์กระดาษคราฟท์ยังคงมาแรงต่อเนื่อง พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค
จากข้อมูลและเรื่องราวต่างๆ ที่กล่าวมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากระดาษคราฟท์ได้กลายเป็นวัสดุ Packaging สุดฮิตที่ถูกเลือกใช้มากที่สุดในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติที่ลงตัวทั้งความสวยงาม ความแข็งแรงทนทาน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เทรนด์การใช้กระดาษคราฟท์นี้สะท้อนให้เห็นการปรับตัวของแบรนด์ต่างๆ ที่พยายามตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพ ความยั่งยืน และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ
และด้วยแนวโน้มที่ผู้คนจะยิ่งตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในอนาคต เชื่อได้เลยว่ากระแสการใช้กระดาษคราฟท์และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับธรรมชาตินี้ จะยังคงอยู่และเติบโตต่อไปอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน แบรนด์ไหนที่กำลังมองหาไอเดียบรรจุภัณฑ์เก๋ๆ อยู่ล่ะก็ ลองเลือกใช้กล่องกระดาษคราฟท์ในการบรรจุ เชื่อว่านอกจากจะทำให้ธุรกิจมีความเป็นเอกลักษณ์แล้วยังมีเสน่ห์ในแบบที่น่าสนใจอีกด้วย